นักจิตวิทยาชาวเนเธอร์แลนด์คนสำคัญชื่อ วีนโฮเฟ่น (Veenhoven) ให้นิยาม ‘ความสุข’ ว่าอยู่ที่การประเมินของแต่ละคนว่าชื่นชอบชีวิตโดยรวมของตนเองมากแค่ไหน การบอกว่าเรามีความสุข จึงหมายถึงรู้สึกชอบหรือพึงพอใจกับชีวิตเรานั่นเอง
ด้วยตระหนักถึงความสุขในการทำงานและความสุขในการใช้ชีวิตของ Sports Team บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) (MASTER) โดย หมอเส – นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล และ คุณดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธาน และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) (MASTER) ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช โรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจรชั้นนำของไทยและเอเชีย จัดอบรมหลักสูตร ‘สุข 4 แบบ ค้นพบตัวเอง หาความสุขที่สมดุล’ โดยมีวิทยากรคือ อาจารย์รณสิงห์ รือเรือง นักจิตวิทยาคลินิก ระดับชำนาญการพิเศษ สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยครั้งนี้เป็นการอบรมให้กับ Key Persons ของ MASTER
ในคลาสชวนพูดคุยถึงความสุขที่มีอยู่ด้วยกัน 4 ระดับ คือ
1. สุขจาก Serotonin มีสุขภาพดี ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ/ สัญชาตญาณ มีการพักผ่อนและสร้างสมดุลชีวิตจากการทำกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ
2. สุขแบบ Oxytocin มีการพึ่งพาและผูกพัน เป็นความสุขจากความพึงพอใจ (Pleasure) จากภายนอก เราจะรู้สึกสบาย ไม่ลำบาก แต่ความสุขระดับนี้คือการยึดตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ใช้อารมณ์ความรู้สึกผูกพันเป็นตัวแปร
3. สุขแบบ Dopamine มาจากการพึ่งพาตัวเอง ทำเป้าหมายให้สำเร็จตามความต้องการ และเมื่อบรรลุเป้าหมายจึงเกิดเป็นความรู้สึกภูมิใจในความสำเร็จ และ…
4. สุขแบบ HERO เป็นความสุขแบบ Dopamine และ Oxytocin รวมกัน สุขจากการที่ตัวเรามีความสามารถมากกว่าคนอื่น สามารถพึ่งพาตัวเองได้ นอกจากนี้ยังเป็นความสุขจากการได้ช่วยเหลือผู้อื่นที่อ่อนแอกว่าให้แข็งแรง
และที่น่าสนใจคือสมองส่วนอารมณ์ของมนุษย์ มักถูกกระตุ้นจากการสื่อสารเชิงลบ หรือ 4C อันได้แก่
•Critic ดุ ตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรม ทำให้รู้สึกล้มเหลว
•Control/ Command เอาชนะ สั่ง บอกให้ทำ หรือห้ามไม่ให้ทำ ควบคุมบังคับ
•Compare เปรียบเทียบ อ้างถึงบุคคลอื่น และ
•Complain สั่งหรือสอน บ่น พูดลอยๆ พูดเรื่องเดิมซ้ำๆ (หลายครั้ง)
จะเห็นได้ว่าทั้ง 4C ใช้ปากสื่อสารทั้งหมด ซึ่งตรงกันข้ามกับ 4R หรือขั้นตอนการสื่อสารสร้างสัมพันธภาพที่เลือกใช้ตา หู และปากในการสร้างพลังบวกและชื่นชม เพราะคนเรานั้นมีความสุขได้ง่ายๆ จาก
•Respect หาข้อดี จุดเด่น มองโลกในแง่บวก เพื่อค้นหาศักยภาพ หรือจุดเด่นของตนเองและผู้อื่น
•Relationship สร้างสัมพันธภาพที่ดี โดยเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการฟังเรื่องราวที่ดี ที่ภาคภูมิใจ ที่อยากพูด สร้างความเป็นพวกเดียวกัน
•Responsibility สร้างความรับผิดชอบด้วยการฝึกคิด ตัดสินใจ และลงมือทำให้สำเร็จ และ
•Rewards/ Reassurance ชื่นชมในความสำเร็จ ให้รางวัลจูงใจให้ทำดี เพื่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้อาจารย์รณรสิงห์ ยังพาทุกคนในคลาสไปสำรวจ Maslow’s Pyramid ที่เชื่อว่ามนุษย์เรามีพฤติกรรมและการแสดงออกจากความต้องการตามลำดับขั้น ซึ่งลำดับขั้นของความต้องการไม่จำเป็นต้องตายตัว สามารถเปลี่ยนแปลงและยืดหยุ่นได้ตามปัจจัยภายนอกและความแตกต่างระหว่างบุคคล รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์มักจะเกิดขึ้นจากความต้องการมากกว่าหนึ่งอย่างร่วมกัน
เริ่มจากความต้องการทางกายภาพ (Physiological Needs) อันเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในการดำเนินชีวิต
ต้องการความปลอดภัย ความมั่นคง (Safety Needs) ความต้องการในลำดับนี้จะมีความซับซ้อนมากขึ้น มนุษย์อยากจะควบคุมและดูแลสิ่งต่างๆ ในชีวิต ดังนั้นความปลอดภัยและความมั่นคงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ความต้องการความรัก หรือการเป็นเจ้าของ (Social Needs) มีความสัมพันธ์ที่ดี ได้รับความรัก หรือรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ความต้องการนี้เป็นความต้องการที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งเป็นความต้องการทางด้านสังคม (Social Needs) โดยที่สภาวะอารมณ์ ความสัมพันธ์เหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ ตามมา
ความเคารพ (Esteem) ความต้องการด้านความเคารพ เกิดขึ้นเมื่อความต้องการด้านอื่นๆ ได้รับการตอบสนองแล้ว ในระดับนี้เราจะต้องการความเคารพนับถือจากคนอื่น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น ความต้องการที่จะเป็นใครสักคน หรือมีความภูมิใจ เกิดความความเชี่ยวชาญในทักษะต่างๆ และความต้องการที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่น เช่น การมีชื่อเสียง ศักดิ์ศรี
ความต้องการด้านนี้ยังรวมไปถึงสิ่งต่างๆ เช่น ความรู้สึกมีคุณค่า หรือ Self-esteem เช่นกัน คนที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความเคารพจะมีความรู้สึกมั่นใจในความสามารถของตนเอง
และสุดท้าย การบรรลุความหมายหรือความสมบูรณ์ของชีวิต (Fulfill) เป็นสิ่งที่อยู่สูงสุดในระดับของความต้องการตามทฤษฎีของมาสโลว์ ซึ่งหมายถึงการตระหนักในความสามารถของคนๆ หนึ่ง ความต้องการที่จะเป็นในสิ่งที่คนๆ หนึ่งสามารถเป็นได้ เป็นสิ่งที่มีความเฉพาะเจาะจงเช่น คนๆ หนึ่งถูกเติมเต็มจากตัวเองในการทำบางอย่างให้ดีที่สุด เป็นการบรรลุศักยภาพของตัวเอง และพัฒนาตัวเอง
เพราะความสุขที่แท้จริงคือการหา ‘ความสุขที่สมดุล’ หลังจากจบคลาส สังเกตเห็นใบหน้าของ Sports Team ทุกคน เปื้อนรอยยิ้มเปี่ยมความสุข